Powered By Blogger

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การเลือกดูแลตัวเองจากการออกกำลังกาย 

**ข้อควรรู้ในการออกกำลังกาย**
          การออกกำลังกาย ถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์กับร่างกายอย่างมาก ในปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจในการออกกำลังกายมากขึ้น เราจึงควรมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการออกกำลังกาย สามารถเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อให้การออกกำลังกายนั้นเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

การเตรียมตัวก่อนออกกำลังกาย

1.ออกกำลังกายหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
2.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายทันทีหลังตื่นนอน และควรหยุดออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
3.ควรดื่มน้ำหนึ่งแก้ว ก่อนออกมาซ้อมวิ่ง และพยายามดื่มน้ำให้มากทุกวัน วิ่งเสร็จแล้วก็ควรดื่มน้ำด้วย เพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ
4.เลือกชุดกีฬาและรองเท้าที่เหมาะสมกับชนิดของกีฬา เช่น ชุดวิ่งควรจะเบาและระบายความร้อนจากร่างกายได้ดี ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศ เช่น เสื้อกล้ามเหมาะกับฤดูร้อน ชุดวอร์มเหมาะกับอากาศหนาวเย็น
5.ถ้าไม่สบาย เป็นไข้หรือท้องเสีย ควรงดการซ้อมวิ่ง ถ้าขัดเคล็ดยอก แพลง ก็ควรลดการวิ่งลง อาจเลือกการออกกำลังกายแบบอื่นทดแทน
6.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ

  ขั้นตอนการออกกำลังกาย การออกกำลังกายแต่ละครั้งประกอบด้วย 4 ขั้นตอน
1.การเหยียดและยืดกล้ามเนื้อ (stretching exercise)
2.การอุ่นร่างกาย (warm up)
3.การออกกำลังกายต่อเนื่อง เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ปั่นจักยาน รำมวยจีน กายบริหาร
4.การผ่อนร่างกายให้เย็นลง (cool down)
เราต้องมีการวอร์มร่างกายก่อน เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมที่จะออกกำลังกาย หากไม่วอร์มหลังจากออกกำลังกายเราจะเหนื่อยและเมื่อย รู้สึกเพลียเอามากๆหากยิ่งออกกำลังกายเป็นครั้งแรกยิ่งต้องวอร์มก่อนนะคะ

    การออกกำลังกาย มีหลายวิธี เลือกที่ตัวเองสามารถทำได้ตลอดและไม่เป็นการหักโหมจนเกินไปนะคะ
   
เต้นก็ช่วยได้
      
          การเต้นเป็นทางเลือกที่เวิร์กสุด ๆ สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ลองจัดสรรเวลามาลุกขึ้นเต้นสักวันละ 20 นาทีดู การได้ยักย้ายส่ายเอว ส่ายสะโพก หรือกระโดดโลดเต้นจะช่วยให้รูปร่างของคุณดูเพอร์เฟคท์มากขึ้น แถมยังเป็นยาอายุวัฒนะให้คุณดูสดใสขึ้นด้วย เอ...แล้ววันนี้จะเต้นเพลงอะไรดีนะ


 วิ่งถอยหลังก็ไม่เลว

          ถ้าเคยวิ่งไปข้างหน้าเป็นประจำจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนมาวิ่งถอยหลังดูบ้างไหมจ๊ะ เพราะมีงานวิจัยพบว่า การวิ่งถอยหลัง นอกจากจะช่วยบำรุงหัวใจ ปอด กล้ามเนื้อ ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสะโพก ขา และลำตัวของคุณให้แข็งแรงขึ้นแล้ว คุณยังจะสามารถเผาผลาญไขมันและแคลอรี่ได้มากกว่าการวิ่งไปข้างหน้าด้วย แถมยังช่วยให้ประสาทการได้ยินของคุณทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ข้อแนะนำก็คือ ควรเลือกสนามว่าง ๆ หรือสถานที่ที่คุ้นเคยในการวิ่งนะ เพื่อความปลอดภัย จะได้ไม่หกล้มหงายหลังจนได้รับบาดเจ็บแทน


 เดิน

      การเดินเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับการออกกำลังกาย เนื่องจากการเดินเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงสามารถเผาผลาญพลังงานได้เท่ากับการวิ่งบนสายพาน 1 ชั่วโมง ถ้าที่ทำงานหรือโรงเรียนของคุณไม่ไกลจากบ้านมากนัก และลืมการนั่งรถโดยสารเอาไว้ชั่วคราว เพราะการออกแรงเดินไปนี่แหละช่วยให้คุณออกกำลังกายไปด้วยในตัว นอกจากนี้การเดินขึ้นบันไดแทนที่จะใช้ลิฟท์ก็ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจได้อีกทางหนึ่งด้วย และการเดินจะช่วยทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวไปตลอดทั้งวันได้จริง ๆ นะ


กระโดด

              สมัยที่คุณยังเด็กทางโรงเรียนต้องเคยให้คุณออกกำลังกายด้วยการกระโดดตบมือแน่นอน ตอนนั้นคุณก็สนุกดีใช่ไหมล่ะ แล้วรู้ไหมว่าการกระโดดไม่เพียงช่วยให้ขาและกระดูกสันหลังของคุณแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้หัวใจของคุณแข็งแรงขึ้นด้วย นอกจากนี้การกระโดดยังถือเป็นท่าเริ่มต้นในการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี


จ๊อกกิ้งอยู่กับที่

              การจ๊อกกิ้งอยู่กับที่เป็นทางเลือกที่ดีถ้าแถวบ้านของคุณไม่มีสวนสาธารณะให้ไปวิ่งเลย คุณสามารถทำได้อย่างสบายในห้องนั่งเล่นหรือพื้นที่ว่าง ๆ ในบริเวณบ้านของคุณ ขอเพียงมีความตั้งใจจริงที่จะออกกำลังกาย อุปสรรคเรื่องสถานที่ก็ไม่ใช่ปัญหา

ซิทอัพ
             
         นี่เป็นวิธีดีที่สุดสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณ พยายามยกหัวไหล่และหัวของคุณให้ตั้งฉากกับหัวเข่าจนคุณรู้สึกได้ถึงการตึงของแผ่นหลังและหน้าท้อง อาจไม่มีท่าที่ตายตัวนักแต่ถ้าทำได้ประมาณนี้ก็โอเคแล้ว


วิดพื้น

              ถ้าคุณวิดพื้นเป็นประจำจะช่วยให้กล้ามเนื้อแขน ไบเซปส์ และไทรเซปส์ของคุณแข็งแรงมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหัวไหล่ หน้าอก และกระดูกสันหลัง ซึ่งจะว่าไปการออกกำลังโดยการวิดพื้นเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่ถ้าคุณวิดพื้นแบบปกติไม่ไหว ลองเปลี่ยนไปวิดพื้นแบบงอเข่าหรือวิดพื้นกับกำแพงแทนดูสิ เพียงเท่านี้ก็การวิดพื้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

นอนยกสลับขาขึ้นลง

              การออกกำลังกายแบบนอนยกขาสลับขึ้นลงนี้ ทำเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับขา หัวเข่า และสะโพก โดยพยายามยกขาให้สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าการที่ยกขาขึ้นตรงแล้วรู้สึกว่าปวดเข่า คุณก็สามารถแก้ไขโดยการย่อเข่าลงมาอีกนิดหนึ่งก็พอแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บด้วย
                                               

 นั่งย่อเขา

              ท่านั่งย่อเข่ายอง ๆ เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้ขาและบั้นท้ายของคุณกระชับขึ้น การทำสลับไปมาระหว่างยืนขึ้นกับนั่งย่อเข่าจะช่วยลดไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อโดยไม่ต้องไปเล่นเวทใด ๆ เลย

              การออกกำลังกายนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด แม้ว่าคุณจะไม่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่เพียบพร้อม แต่คุณก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ขอเพียงแค่คุณตั้งมั่นที่จะออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและความแข็งแรงของตัวเอง เรื่องอุปกรณ์ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลอีกต่อไป เชื่อสิ!

      การออกกำลังกายมีหลากหลายกระบวนท่า เราจะยกมาที่เฉพาะสามารถทำได้ง่ายๆเองที่บ้านโดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องออกกำลังกายให้วุ่นวาย เปลืองค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
                                                                                    สู้ๆนะคะทุกๆคน 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น